ค้นหาบล็อกนี้

3/07/2554

Liverpool VS Man U


ผ่านไปแว้ววว วันแดงเดือด!!! กุดจี่เหยียบรถจาก จ.น่าน กลับเชียงใหม่ อย่างรีบสุดๆ ......
ก่อนอื่นต้องขอ Happy Birthday กับ ผู้จัดการทีมลิเวอร์ของเค้าา เคนนี่ ดัลกลิซ อดีตเจ้าของเสื้อเบอร์ 7 ของ

ลิเวอร์พูลในช่วงปี 1977 - 1990

เข้าสู่แดงเดือดอีกครั้ง กุดจี่กลับมาทันเกมส์เริ่มไปสักสิบนาทีได้ รูปเกมส์เป็นยังไงก็ไม่รู้ เพราะกุดจี่มัวแต่

ตื่นเต้นนนน กล้าดูบ้างไม่กล้าดูบ้าง แต่แล้วนาที 34 ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำจากความสามารถ

เฉพาะตัวของหลุยส์ ซัวเรซที่แตะลอดขาราฟาเอลก่อนที่จะมาแตะหลบคาร์ริคและบราวน์เข้าไป

จิ้มลอดขาน้าซาร์บอลไหลจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่เค้าท์ก็เข้ามาอัดเต็มข้อเพื่อความชัวร์ทำให้

ประตูนี้เป็นของเดิร์ก เค้าท์ไป ณ เวลานั้น กุดจี่อยากกรี้ดให้ดังสุดๆ แต่ก็มิกล้านะ (กัวๆๆๆๆ)

เกรงใจเหล้าสาวกผีโต๊ะอื่น และก็กลัวว่าแมนยูจะตีคืน 55555555

แต่แล้วก็ได้โอกาสกรี้ดจริงๆ เมื่อ หลังได้ประตูนำแผงหลังขัดตาทัพของผีก็เริ่มออกอาการรวน

และก็มาเสียลูกที่ 2 จากลูกโยนของซัวเรซที่ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ไม่รู้ว่านานี่เหม่อคิดถึงสูตรทำ

โรตีอยู่หรือเปล่าทำให้โหม่งผิดเหลี่ยมบอลย้อนกลับไปหน้าประตูทำให้เค้าท์ได้โขกกดลงพื้น

ผ่านตัวฟานเดอร์ซาร์เป็นประตูที่ 2 ของเค้าท์และทำให้กุดจี่เฮลั่น!!!! อุ่นใจขึ้นเยอะเลยเว้ยยยย

เก็บได้สองเม็ดแว้ววววว

หลังจากที่เสียไป 2 ประตูติด ๆ กัน เจ้าผีก็ดูสูญเสียความมั่นใจไปเยอะ ต่อบอลขาด ๆ เกิน ๆ

กันตลอดและก่อนหมดครึ่งแรก 1 นาทีก็เกิดจังหวะปัญหาเมื่อคาร์ราเกอร์พุ่งเข้าเสียบที่หัวเข่า

ของนานี่จนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายจนผู้ตัดสินต้องแจกใบเหลืองว่อนและนานี่ถึงกับร้องไห้โฮจาก

อาการบาดเจ็บ แต่ที่แน่ๆ จากภาพที่เห็น รู้ว่าเจ็บนะ แต่ทำไมต้องลุกขึ้นมาด่า ถ้าลุกไม่ได้เรยก็

ว่าไปอย่างนะ นี่ดันลุกมาเถียงกะเจิด! พอเจิดสะกิด ก็ทำหงายล้ม ยังกะโดนกำลังภายในของ

สตีวี กัปตันสุดหล่อเราอย่างนั้น คะแนนความสงสารเลยหายไปเยอะ

หลังจากนั้นเกมส์ก็เดือดจนฟิล ดาวน์ต้องทดเจ็บไปกว่า 4 นาทีและเกมส์หวิดเดือดอีกครั้งเมื่อ

ราฟาเอลปรี่เข้าไปเสียบขาคู่ใส่ลูคัสร้อนถึงสเคอร์เทลพุ่งเข้ามาเอาเรื่องกับราฟาเอลจนเพื่อน ๆ

ต้องเข้ามาห้ามทัพกันให้วุ่นและเรื่องก็จบลงด้วย 2 ใบเหลือง (แต่ฮาสุดคือฟิล ดาวน์ ยืนกอดอก

ดูจนมันทะเลาะกันเองเสร็จถึงเดินมาแจกใบเหลือง55555)

ครึ่งหลังเริ่มขึ้น!!!

กุดจี่ตุ้มๆต่อมๆ กัวเจ้าเหล่าผีแดงไปวางกลยุทธ์มาน่ากัววววว แต่แล้วววววววววว ประตูที่ 3!!!!

นาที 65 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก ซัวเรซรับหน้าที่นี้ ซัวเรซปั่นด้วยขวาข้ามกำแพงและฟานเดอร์ซาร์

รับกระฉอกมาเข้าทางเค้าท์ที่พุ่งมาซ้ำราวจรวดบอลตุงตาข่ายเป็นแฮททริคแรกของเค้าท์ตั้งแต่

ปี 2005 เลยทีเดียว ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววว

หงส์เล่นวันนี้ดีใจมากมาย เพราะแม้จะนำถึง 3-0 แล้ว ก็ยังไม่หยุด ไม่หมดความพยายาม

ยังคงพยายามบุกอย่างเต็มที่ และก็ปิดประตูบ้านเต็มที่เช่นกัน คริ คริ

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บแมนฯ ยูไนเต็ดได้ประตูปลอบใจจากการเปิดของกิ๊กส์มาให้เฮอร์นันเดซโขก

ลงพื้นเข้าไปง่าย ๆให้แมนยูไล่มาเป็น 3-1 แต่ต่อให้ทดสัก 5 นาทีก็ไล่ไม่ทันแว้ววววว เอาลูก

ปลอบใจไปเม็กนึงน๊าาาาาา

จบเกมลิเวอร์พูลถอนแค้นเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดไปได้ 3-1 กรี๊ดดดด กุดจี่เฮลั่นกลับบ้าน5555

แถมหน่อยท้ายเกมส์ จากลูกที่คาราเกอร์ทำฟลาวนานี่ หลังจบเกมส์ลุงเจมีเราก็เดินบุกไปยัง

ห้องพักผีแดง เพื่อขอโทษนานี่เป็นการส่วนตัว อานะๆๆ เกมส์กีฬา อารายก็เกิดได้ๆๆๆ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
เปเป้ เรน่า 6, เกล็น จอห์นสัน 6.5, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 5 , มาร์ติน สเคอร์เทล 7 , ฟาบิโอ ออเรลลิโอ 6(คีร์เกียกอส น.23 7), สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6.5, ลูคัส เลว่า 7.5, ราอูล เมเรเลส 7.5(แคร์โรลล์ น.74 6.5), มักซี่ โรดริเกวซ 7, เดิร์ค เค้าท์ 9**, หลุยส์ ซัวเรซ 8.5(โคล น.89 -)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 5 , ราฟาเอล ดา ซิลวา 4.5 (โอเช น.76 6), คริส สมอลลิ่ง 5, เวส บราวน์ 5, ปาทริซ เอฟร่า 5, นานี่ 4(เฮอร์นันเดซ น.45 6.5), ไมเคิ่ล คาร์ริค 4.5, พอล สโคลส์ 5 (เฟล็ทเชอร์ น.84 -), ไรอัน กิ๊กส์ 6, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 6.5, เวย์น รูนี่ย์ 5

แต่งานนี้กุดจี่ขอยกแมนออฟเดอะแมตให้กับความสามารถเฉพาะตัวของหลุยส์ ซัวเรซ จริงๆ

เค้าเทพ!!!!!!!!!!!!!!!!!

และก็คนนี้
v
v
v
v


Credit : www.soccersuck.com
Post by : Miss GudGie