ค้นหาบล็อกนี้

12/04/2553

"ความรัก"

เห้อ!! หลายๆเรื่องผ่านเข้ามาในชีวิตอีกแล้ว หลายๆสิ่งใหม่ ทำให้เรารู้สึกว่า เรามีความสุข

แต่สิ่งที่เราเรียกว่าความสุข บางครั้งมันก็มาพร้อมกับความทุกข์!!!!

ไม่ใช่อะไรหรอก จริงๆมันคือสิ่งที่เราเรียกมันว่ารักนั่นหล่ะ! แน่นอนของคำว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์

สิ่งที่เราพยามจะไม่นำเข้ามาในชีวิต ความรัก ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่เรา หยุดรักไม่ได้!!!

เพราะอะไร?????? หลายๆคนพยามตีความหมายของคำว่า "ความรัก"

แต่กับตัวเราเอง ไม่เคยที่จะหาความหมาย เรา หาแค่ความรู้สึก! แต่สุดท้าย ความรู้สึก มันก็บรรยายไม่ถูก

รักทำไม? ทำไมต้องรัก? รักมันเหนื่อยนะ!! แต่มันก็มีความสุขนะ

........เคยพยามที่จะวิ่งหนี สิ่งที่เรียกว่ารัก เพราะคำว่ารักที่ใครหลายๆคนวิ่งเข้าหา มันทำให้เราเหนื่อย เจ็บ!

มันถึงทำให้เรา อยากหนีไกลๆจากความรัก เพราะเราเชื่อว่า เราอยู่ด้วยความรักที่เรามีให้ตัวเราเองได้

.............แต่กับเธอ!!! มายังไงเหรอ รักยังไงเหรอ มันก็งงๆอยู่นะ ฉันรักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่? ตั้งแต่แรกเหรอ?

ฉันรัก ตั้งแต่ฉันยังไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำไปเหรอ???????

แต่!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เราก็รักกัน!!! จริงเหรอ???? เธอรักฉันเหรอ? ทำไม ฉันไม่เคยรู้สึกมั่นใจเลยหล่ะ?

เธอรัก เพราะเธอเหงา? หรือรัก เพราะเธอรักฉันจริงๆ?....... แคร์ฉันบ้างไม๊? เคยคิดถึงความรู้สึกฉันบ้างไม๊?

เคยคิดบ้างไม๊ว่าฉันคิดอะไรอยู่? เคยคิดบ้างไม๊ว่า "เราจะรักกันนานแค่ไหน"

บางครั้ง เธอไม่พูด แถมไม่แสดงออก อีกคนก็ำไม่เข้าใจหรอกนะ ว่าเธอคิดอะไรอยู่

นั่นหล่ะ ความรัก!!! สิ่งที่ทำให้ทุกข์ใจ ไม่เข้าใจ แต่ทำให้ชีวิตมีแต่คำถาม

แต่มันก็คือ "ความรัก" สิ่งที่เราไขว่คว้ากัน ตามหากัน

มันคือ "ความรัก" สิ่งที่เรา หนีไม่พ้นมันหรอก ถ้ามันเข้ามา!!!

แต่ช่างมันเถอะ เพราะยังไงมันก็คือความรัก

ฉันเอง ไม่รู้หรอกว่า "ฉันมีค่ากับเธอแค่ไหน"

แต่สำหรับฉัน....................................................You are THE BEST !!!


Miss GudGie

Just one day I'm feel lonely/////

11/18/2553

ชีวิต......ไปวันๆ







แล้วแต่ชะตา...ถ้าฟ้าลิขิตปล่อยชีวิต


ให้เป็นไป ใต้ปีกฝันจะดีร้าย สักเพียงใด ก็ช่างมัน


กี่บาดแผล ที่ฟาดฝัน ไม่เห็นแคร์


แล้วแค่ชะตา...ถ้าฟ้ากำหนด


จะสุขสันต์ สักเพียงไหน ในดวงแด


ก็แล้วแต่ วาสนา จะพาไป


แล้วแต่ชะตา...ถ้าฟ้าสั่งจะผิดหวัง


จะสมหวัง เป็นไปได้


จะตายวัน จะตายพรุ่ง ช่างปะไร


เลือกไม่ได้ มีลมหายใจ ไว้ใช้กรรม

7/16/2553

The Lost Symbol



จบแร้ววว กับ The Lost Symbol ถามว่ายังคงเสน่ห์ของ แดน บราวน์ หรือป่าว ก็ถือว่ายังเต็มไปด้วยคุณภาพและรายละเอียด แต่อาจจะมีบางตอนที่อาจจะเยิ่นเย้อเกินไป หนึ่งร้อยหน้าแรก ไม่ไหวจริงๆจนอยากจะเคลียร์กะ แดน บราวน์ กว่าแลงดอนจะได้เข้าไปใน US Capitol น่าเบื่อมาก เพราะระหว่างทางเข้าไปมีแต่พรรณาไปต่างๆนาๆ เลยมะค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่กลางเรื่องก็ถือว่าเป็นฉบับของ แดน บราวน์ เค้าเรย ถอดรหัสไป วิ่งไป งงๆไปบ้าง แต่ตอนจบค่อนข้างผิดหวังแบบบอกไม่ถูก อาจจะเพราะตอนท้ายเรื่องออกแนวๆดราม่ามากไปป่าวก็มะรู้ เหมือนทำมาเพื่อเป็นบทภาพยนตร์มากกว่าหนังสือ! แต่รวมๆ ก็ยังชอบ แดน บราวน์ ไม่รู้ผลงานครั้งต่อไปต้องรออีกกี่ปี ระหว่างรอก็กลับไปอ่านเชอล็อคโฮมไปพลางๆ อิอิ (มะเหงเกี่ยวกะแดนบราวน์นี่หว่าา)








6/24/2553

My birth day 2010

ขอบคุณทุกๆคำอวยพร เสียงหัวเราะ และความสนุกที่ให้กันสำหรับวันเกิดครบรอบ 28 ปีของเค้านะทุกคน
ขอบคุณมามี้คนแรกเลย ที่ไม่เคยลืมวันเกิดคุณลูกสุดสวย อิอิ แม้ปีนี้จะลืมวันที่555กว่าเด็จแม่จะโทรมาอวยพรก็
ปาเข้าไปบ่าย 3 โมงเลย ปีนี้ได้รับคำอวยพรมากมายจริงๆ ทั้งจากเพื่อนรัก และทุกๆคน รวมถึงคนที่ยังไม่เคยเห็นหน้ากัน
อย่างชาวทวิตเตอร์และเฟสบุค บางคนน่ารักมาก อย่างเจ๊เกรซที่พึ่งรู้จักกันไม่นานทางทวิต อุตสาห์ทำการ์ดส่งมาให้
น่ารักจิงๆ

สำหรับบรรยาการปาร์ตี้ตอนค่ำตามธรรมเนียมเหมือนทุกปี คุณพ่อผู้ใจดีของคุณลูกมาเป็นเจ้ามือจัดงานให้คุณลูกเหมือนเดิม ปีนี้ขาดเจ้าป้า เนื่องจากเจ๊แกติดภารกิจ เดวพอกลับมาจาก ตจว.ก็คงได้เกิดกันอีกรอบชัวร์
ปีนี้มีคุณฟิลลิปผู้ใจดี แฟนน้องนุชเพื่อนเลิฟ มาแจกของขวัญเปงเหล้า เรยได้ 2 ขวดเรย5555แบล็คเลเบิลอีกตะหากอิอิ แต่ยังไงก็สู้เหล้าคุณพ่อไม่ได้อ่า แกรนด์ฟิดิซ อาหร่อยอ่า
ปีนี้เซอร์ไพรส์มัก เพราะดันเจอพี่อนันดา ดาราสุดหล่อที่ร้านด้วย ด้วยที่ว่าทั้งร้านมีคนไม่เยอะด้วย(นอกจากโต๊ะเรา) เลยได้เฮฮากับพี่อนันดาซะเรยยยย ดีใจอ่า55555 ส่วนบรรยากาศ ติดตามได้ตามรูปค๊าาา







6/14/2553

ไม่ผิดหวัง

ไม่ผิดหวังกับแม็ตแรกทีมโปรด แทบจะร้องกรี๊สๆๆๆเป็นภาษาเยอรมัน( ต้องไปเรียนก่อน อิอิ)

มาแว้วววว


นาทีใบแดง

Mueller!! นายเจ๋งมัก

มาเตะแฟนเค้ามายอะ เดวต่อยเรย

น้านๆๆเหงนะ ดึงอีก

ไปเรยยโคลเซ่ Fighting!!!

วู้ ยิ่งดูยิ่งเท่แหะ

เคดิร่า โดนรุม

โอเค โอเค๊
สรุป อิอิ ดีจายแต๊ๆ

6/11/2553

เยอรมันมาแว้ววว




ัดแรกเจอ ออสเตเรีย วันที่ 13 มิ.ย. เวลา 01.30 ช่อง 9 ถ่ายทอดสด

อัพเดทรายชื่อนักเตะกันหน่อย

ผู้รักษาประตู :
มานูเอล นอยเออร์ (ชาลเก้ 04 / เยอรมัน)
ทิม วีเซ่ (แวร์เดอร์ เบรเมน / เยอรมัน)
ฮันส์ ยอร์ก บุทท์ (บาเยิร์น มิวนิค / เยอรมัน)

กองหลัง :
อาร์เน่ ฟรีดริช (แฮร์ธ่า เบอร์ลิน / เยอรมัน)
แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ (แวร์เดอร์ เบรเมน / เยอรมัน)
เยโรม บัวเต็ง (ฮัมบูร์ก / เยอรมัน)
ฟิลิปป์ ลาห์ม (บาเยิร์น มิวนิค / เยอรมัน)นักเตะเด่น
แซร์ดาร์ ทาสซี่ (สตุ๊ตการ์ท / เยอรมัน)
มาร์เซลล์ ยานเซ่น (ฮัมบูร์ก / เยอรมัน)
โฮลเกอร์ บาสตูเบอร์ (บาเยิร์น มิวนิค / เยอรมัน)
เดนนิส อาโอโก้ (ฮัมบูร์ก / เยอรมัน)

กองกลาง :

ซามี่ เคดิร่า (สตุ๊ตการ์ท / เยอรมัน)
โทนี่ โครส (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น / เยอรมัน)
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (บาเยิร์น มิวนิค / เยอรมัน)นักเตะเด่น
มาร์โค มาริน (แวร์เดอร์ เบรเมน / เยอรมัน)
เมซุต โอซิล (แวร์เดอร์ เบรเมน / เยอรมัน)
พิโอเตอร์ โทรซอฟสกี้ (ฮัมบูร์ก / เยอรมัน)

กองหน้า :
โธมัส มุลเลอร์ (บาเยิร์น มิวนิค / เยอรมัน) นักเตะเด่น
มิโรสลาฟ โคลเซ่ (บาเยิร์น มิวนิค / เยอรมัน)นักเตะเด่น
ลูคัส โพดอลสกี้ (เอฟซี โคโลญจน์ / เยอรมัน)
มาริโอ โกเมซ (บาเยิร์น มิวนิค / เยอรมัน)
สเตฟาน คีสลิงก์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น / เยอรมัน)
คาเคา (สตุ๊ตการ์ท / เยอรมัน)
ผู้จัดการทีม :

โยอัคคิม เลิฟ (เยอรมัน)


5/24/2553

เรื่องของในหลวง ที่อ่านทีไรก็ยิ้มทุกที



เรื่องขำขำ ในหลวงของเรา
ระยะแรกราวปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา คราใดที่เสด็จพระราชดำเนิน
แปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวลนั้น จะทรงขับรถยนต์พระที่นั่ง
ไปยังท้องที่ห่างไกลทุรกันดารย่านหัวหิน หนองพลับแก่งกระจาน ด้วยพระองค์เอง ทำนองเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ห้า โดยที่ราษฎรไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่า
ทรงมาถึงแล้ว

วันหนึ่งทรงขับรถยนต์พระที่นั่งผ่านไปถึงยังบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านหมู่บ้าน
ห้วยมงคล อำเภอหัวหิน ซึ่งราษฎรกำลังช่วยกันตบแต่งประดับซุ้มรับเสด็จกัน
อย่างสนุกสนานครื้นเครง และไม่คาดคิดว่าเป็นรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์
ต้องให้ในหลวงเสด็จฯก่อนแล้วพรุ่งนี้ถึงจะลอดผ่านซุ้มได้..
"วันนี้ห้ามลอดผ่านซุ้มนี้ เพราะขอให้ในหลวงผ่านก่อนนะ..
ทรงขับรถพระที่นั่งเบี่ยงข้างทางไม่ลอดซุ้มดังกล่าว"

วันรุ่งขึ้นเมื่อทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร
ในหมู่บ้านนี้อย่างเป็นทางการพร้อมคณะข้าราชบริพารผู้ติดตามและ
ทรงมีพระดำรัสทักทายกับชายผู้นั้นที่เฝ้าอยู่หน้าซุ้มเมื่อวันวานว่า
"วันนี้ฉันเป็นในหลวง..คงผ่านซุ้มนี้ได้แล้วนะ.."

มีเรื่องนึงเคยฟังจากผู้ใหญ่เล่าเมื่อนานมาแล้ว มีช่างไปทำฝ้าเพดานในวัง
คนนึงกำลังยืนบนบันได ส่วนหัวอยู่ใต้ฝ้า อีกคนคอยจับบันไดอยู่ด้านล่าง
พอดีในหลวงเสด็จมา คนที่อยู่ข้างล่างเห็นในหลวงก็ก้มลงกราบ
คนอยู่ด้านบนไม่เห็น ก็บอกว่า "เฮ้ย จับดีๆ หน่อยสิ อย่าให้แกว่ง"
ในหลวงทรงจับบันไดให้ เค้าก็บอกว่า "เออ ดีๆ เสร็จงานนี้จะให้เป็นช่างจริง"
(สงสัยคงจะเพิ่งเข้ามาทำงานยังไม่ผ่านโปร) พอเสร็จก็ก้าวลง
พอเห็นว่าในหลวงเป็นคนจับบันไดให้ ถึงกับเข่าอ่อน จะตกบันได
รีบลงมาก้มกราบ

ในหลวงทรงตรัสกับช่างว่า "แหม ดีนะที่ชมว่าใช้ได้
แถมจะปรับตำแหน่งให้เป็นช่างอีกด้วย"


เหตุการณ์เมื่อปี 2513
วันนั้นท่านทรงเสด็จไปหมู่บ้านท้ายดอยจอมหด พร้าว เชียงใหม่
ผู้ใหญ่บ้านลีซอกราบทูลชวนให้ไปแอ่วบ้านเฮา ท่านก็ทรงเสด็จ
ตามเขาเข้าไปบ้านซึ่งทำด้วยไม้ไผ่และมุงหญ้าแห้ง เขาเอาที่นอนมาปู
สำหรับประทับ แล้วรินเหล้าทำเองใส่ถ้วยที่ไม่ค่อยจะได้ล้างจน
มีคราบดำๆ จับ ทางผู้ติดตามรู้สึกเป็นห่วง เพราะปกติไม่ทรงใช้ถ้วยมีคราบ
จึงกระซิบทูลว่า ควรจะทรงทำท่าเสวย
แล้วส่งถ้วยมาพระราชทานผู้ติดตามจัดการเอง
แต่ท่านก็ทรงดวดเอง กร้อบเดียวเกลี้ยง ตอนหลังทรงรับสั่งว่า

"
ไม่เป็นไร แอลกอฮอล์เข้มข้นเชื้อโรคตายหมด" ซึ้งไหมหล่ะ

..................................................................

"สามร้อยตุ่ม"

มีหลายหนที่ทรงงานติดพันจนมืดสนิท ท่ามกลางฝูงยุงที่รุมตอมเข้ามากัดบริเวณพระวรกาย รอบพระศอ พระกร พระพักตร์ รวมทั้งแมลงตาง ๆ ที่เข้ามารุมรบกวนพระองค์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะยังทรงทอดพระเนตรแผนที่อยู่ภายใต้แสงไฟฉายที่มีผ้ส่องถวายอยางไม่สะดุ้นสะเทือน อย่างมากที่ทรงทำคือโบกพระหัตถ์ปัดไล่เบา ๆ เท่านั้น

ครั้งหนึ่งทรงมีรับสั่งเล่าเรื่อง "ยุง" ด้วยพระอารมณ์ขันว่า

"..ที่บางจาก แต่ไม่มีจากหรอกนะ ยุงชุมมากเลย ไปยืนดูแผนที่
เลยโดนยุงรุมกัดขาทั้งสองข้าง กลับมาขาบวมแดง
ไปสกลนครกลับมาแล้วถึงได้ยุบลง มองเห็นเป็นตุ่มแตง
ลองนับดูได้ข้างละร้อยห้าสิบตุ่ม สองข้างรวมสามร้อยพอดี.."
---------------------------------------

ในขณะที่ในหลวงท่านทรงประชวรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง
มีข้าราชบริพารเข้าเยี่ยมจำนวนมาก ทุกคนคงจำได้ที่เป็นข่าวใหญ่โตที่นายกฯ
(คนนั้นแหล่ะไม่อยากจะเอ่ย)
บังอาจถวายบัตร 30 บาท ให้พระองค์ เพื่อใช้สิทธิ์ สร้างความแค้นเคืองใจให้พสกนิกรชาวไทยทุกคน
แต่ไม่มีใครรู้เบื้องหลังว่าพระองค์ทรงตอบว่าอย่างไร

ในหลวงทรงตรัสว่า "ไม่เป็นไรหรอก หากข้าพเจ้าไม่สามารถจ่ายค่ารักษาได้ แต่คงสามารถใช้บัตรผู้สูงอายุได้
หรือจะใช้สิทธิข้าราชการของบุตรี (ฟ้าหญิง) ก็ได้"

ท่านพูดเสียงเรียบ ๆ ไม่ได้รู้สึกว่าถูกลบหลู่เลย พูดเสร็จก็ยื่นบัตรทองใบนั้น
ให้นายกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
ฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ว่าพระองค์ท่านตอบได้น่ารักมาก

พลตำรวจตรีสุชาติ เผือกสกนธ์ ผู้อำนวยสำนักงานโครงการพระดาบส
อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ....การที่ได้ทรงพระกรุณารับฟัง และติดต่อทางวิทยุตำรวจเป็นประจำ
จึงทรงทราบความลำบาก ความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย

.....
ตำรวจประจำตู้ยามบางคนคับแค้นใจ เกี่ยวกับปัญหาครอบครัว ปัญหาการครองชีพ
เมื่อเสพสุราแล้วครองสติไม่ได้ ไม่รู้จะระบายความในใจกับใคร จึงได้พล่ามบรรยายมาทางวิทยุ

.....
บางคนหลับยามไม่พอกดคีย์ ไมโครโฟนค้าง ทำให้มีเสียงกรนออกอากาศมาด้วย

.....
บางคนตะโกนร้องเพลงลูกทุ่ง ออกอากาศมาเป็นการแก้เหงา ก็มี

.....
ที่จัดได้ว่าโชคดี คือ ศูนย์ควบคุมข่ายตำรวจแห่งชาติ "ปทุมวัน" กล่าวคือ
ในยามดึกวันหนึ่ง .....พนักงานวิทยุคนหนึ่งได้ระบายความเดือดร้อน เนื่องจากหิวโหยไม่สามารถ
หาอาหารรับประทานได้เพราะต้องเข้าเวร เมื่อทรงรับฟังแล้วทรงสงสาร
จึงได้รับสั่งทางวิทยุกับผู้เขียนในฐานะที่เป็น ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นโดยตรงว่า

"
โปรดเกล้าฯ พระราชทานตู้เย็นเพื่อ เก็บอาหารสำรอง สำหรับเวรยามดึกให้ 1 ตู้"

------------------------------------------------------------

- ทรงพระนามว่าเกาะช้าง
ครั้งหนึ่ง พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน ทางทะเล ระหว่างทางผ่านเกาะช้าง ทรงถาม
ข้าราชการท้องถิ่นคนหนึ่งว่า เกาะนั้นชื่ออะไรข้าราชการทูลตอบว่า เกาะนั้นทรงพระนามว่า
เกาะช้างพะย่ะคะตรัสว่า ถ้างั้นก็เป็นญาติกับฉันน่ะสิ” (ถ้างงก็กลับไปอ่านอีกรอบ)
- ส่งเสี่ยกลับวัง
เมื่อสมัยก่อนเสด็จแปร พระราชฐานไปยังหัวหิน มักจะเสด็จออกไปยังตลาดหัวหินบ่อยครั้ง
และบางครั้งโดยลำพังพระองค์ มีครั้งหนึ่งระหว่างจะ เสด็จกลับ ซาเล้งที่ตลาดทูลถามว่า
ไปไหมเสี่ยปรากฎว่าเสี่ยพระองค์นี้สนพระทัยก็ตรัสจ้างไปยัง พระราชวังไกลกังวล
โดยที่ซาเล้งคนนั้นไม่รู้ นึกว่าเป็น ข้าราชการ แต่พอถึงหน้าพระราชวัง ทหารสั่ง วันทยาวุธ
เท่านั้นแหละ ซาเล็งถึงรู้ว่า เสี่ยที่มาส่งน่ะเป็นใคร

-----------------------------------------------------

"เหตุใดจึงไม่โปรดเสวยปลานิล" มีใจความว่า..
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่โปรดเสวยปลานิล
ทุกครั้งที่มีผู้นำปลานิลไปตั้งเครื่องเสวย
จะโบกพระหัตถ์ให้ย้ายไปไว้ที่อื่น โดยไม่รับสั่งอะไรเลย
จนวันหนึ่งมีผู้กล้าหาญชาญชัยกราบบังคมทูลถามว่า
เพราะเหตุใดจึงไม่โปรดเสวยปลานิล มีรับสั่งว่า
ก็เลี้ยงมันมาเหมือนลูก แล้วจะกินมันได้อย่างไร

เรื่องนี้มีตำนาน เชิญอ่าน
20 ปีก่อน ราวพุทธศักราช 2524 แรกครั้ง
พระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งญี่ปุ่น ยังทรงฐานันดรศักดิ์เป็นมกุฎราชกุมาร
ได้ส่งปลานิลทางเครื่องบินจำนวน 100 ตัวมาทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง ปรากฏว่า เมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทย ปลาตายเกือบหมด เหลือรอดแบบใกล้ตายเพียง 10 ตัว
ในหลวงทรงเป็นห่วงเป็นใยปลานิลเหล่านี้ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้นำ ไปไว้ในพระที่นั่ง ทรงเลี้ยงอย่างประคบประหงม ให้อาหารด้วยพระองค์เอง จนปลานิลทั้ง 10 ตัวรอดชีวิต
แล้วปลานิลทั้ง 10 ตัว ได้สนองพระเดชพระคุณแพร่พันธุ์ไปอีกมากมาย
ตามพระราชประสงค์เป็นอาหารคนไทย 62 ล้านคน มาจนถึงทุกวันนี้


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


ที่มา : สาระแนดอทคอม
Thank : FW-Mail