เล่าเรื่องการไปกราบสักการะพระบรมศพฯ
อันนี้รีวิวจากเวลาเราคะ บางคนไปถูกวันก็อาจจะเร็วหน่อย เพราะบางวันอาจจะมีพระราชพิธีที่เร็วกว่า
หรือไม่ก็เข้ากราบตอนพระบรมวงศาฯเข้าทำพิธีได้ แต่บางวันก็ไม่ได้
ต้องเผื่อเวลากันด้วย
ลำดับขั้นตอน เวลา ตามรายละเอียดนี้คะ
เราเข้าไปถึงตอน 6 โมง ผ่านจุดตรวจเข้ามา
มองหาบอลลูนที่เขียนว่าคิวสุดท้าย ก็ไปตรงนั้นนะ แต่ของเราคือเค้าตั้งแถวมาละ
แล้วพี่ชายก็ไปเข้ารอแล้ว เลยวิ่งไปตรงที่พี่อยู่เลย จากนั้นเราจะได้เข้ามาในเต้นท์คะ
จุดนี้กว่าจะวนๆๆๆๆๆๆ ก็ใช้เวลาสัก 3-4 ชม.คะ เพราะเรามาช่วงที่เค้ามีพระราชพิธี
แล้วหยุดเข้ากราบไปเกือบชั่วโมง
ระหว่างอยู่เต้นท์นี้ก็ทานน้ำทานข้าวไรรอไปได้เลยคะ มีคนเดินมาแจกอยู่แล้ว
ตอนเราไปนี่ได้นั่งกับพื้นรอคะ แต่วันนี้ดูข่าวเมื่อเช้า
เค้าจัดเก้าอี้มาให้นั่งแล้วคะ
เมื่อได้เวลา เราจะออกจากเต้นท์ตรงกลางนี้ แล้วเดินออกไปทางเต้นท์ทิศใต้
ตอนเดินออกมากางร่มเลยคะ แดดร้อน
เดินผ่านเต้นท์อำนวยการมา เข้ามาในเต้นท์อีกฝั่งคะ จากนั้นก็เดินเดิน หยุดหยุด
รอรอ นั่งนั่ง ก็ไปเรื่อยๆคะ จนมาถึงจุดคัดกรองคะ เค้าจะเช็คเสื้อผ้า
ความเรียบร้อย พอเรียบร้อย เราจะได้เดินออกจากสนามหลวง ไปรอที่เต้นท์ตรงหน้าศิลปากรคะ นั่งสักครึ่ง ชม. จะได้ลุกเดินไปเต้นท์หน้าต่อ
และก็นั่งอีก แปบนึงก็จะได้ลุก เดินเข้าเครื่องสแกน แล้วก็เดินไปประตูมณีนพรัตน์
จากจุดนี้ที่เดินออกเต้นท์ไปที่ประตูมณีนพรัตน์ก็กางร่มไป คะ ร้อนจร้า เมื่อเข้าประตูไปก็เดินตามๆกันไปนั่นหล่ะคะ
จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกตลอด เจ้าหน้าทีจะดูแลเราตลอดเลย ก้าวเท้าเข้าธรณีประตูไปแล้ว ก็สำรวมกริยามารยาทด้วยคะ ในนั้นอาจจะมีนักท่องเที่ยว หรือคนทั่วไป
เค้าก็จะเดินขวักไขว่ไปมา ถ่ายรูปสนุกสนาน
แต่เราไม่ควรนะคะ ตระหนักด้วยว่าเรามากราบสักการะฯ ควรตั้งจิตน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ควรอยู่ในอาการสำรวมคะ จริงๆเจ้าหน้าที่บอกเข้ามาในเขตวังแล้วไม่ควรใช้โทรศัพท์แล้ว แต่ก็ไม่ถึงกับห้ามนะคะ ถ่ายได้แบบสุภาพ ไม่ใช่เดินเซลฟี่ไปทั่วคะ เมื่อเดินกันตามๆมาก็มีหยุดเป็นพักๆคะ
ตอนเราเดินมาถึงวัดพระแก้วนี่เป็นเวลา 14.30 แล้วก็ต้องหยุดนั่งคะ
เพราะพระองค์ภาเสด็จมาพระราชพิธี นั่งรอจะได้เริ่มขยับกันอีกทีประมาณ 15.30
คะ ประมาณ 16.00 เดินผ่านพระที่นั่งจักรีฯมาละคะ ถึงตรงนี้ต้องหยุดใช้โทรศัพท์จริงๆนะคะ ไม่งั้นโดนเชิญออกแถวคะ ห้ามถ่ายรูป แล้วเดินเข้าพระที่นั่งดุสิต ถึงตรงนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ชุดขาวๆคอยแนะนำคะ
ว่าต้องเดินไปตรงไหน
เข้าแถวตามเข้ามาก็จะได้รับถุงก็อปแก็ปสีดำ
แล้วเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ในเต้นท์ตามเจ้าหน้าที่บอก นั่งแล้วก็ถอดรองเท้า ถุงเท้าใส่ถุงที่รับมาคะ
จะนั้นเจ้าหน้าที่จะเรียกลุกเป็นเซตคะ
เดินๆเข้าแถวตามกันไปคะ เจ้าหน้าที่จะคอยบอกตลอด ทุกท่านใจดีคะ เมื่อลุกมาจะได้มายืนเข้าแถวต่อรอขึ้นไปบนพระที่นั่งดุสิตฯ
ถึงตรงนี้ใครสะพายกระเป๋าอยู่ให้เอามาถือไว้นะคะ ห้ามสะพายคะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเรียกให้ขึ้นไปคะ
เข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้วก็ฟังเจ้าหน้าที่บอกให้กราบนะคะ กราบในหลวง กราบ1
ครั้งไม่แบมือคะ
ก้มกราบแล้วอย่าพึ่งรีบเงยหน้านะคะ
รอสักแปบค่อยๆเงยหน้าพร้อมกับคนอื่น
เจ้าหน้าที่จะให้เรานั่งอีกแปบนึงคะ
ให้เราได้รำลึกถึงพระองค์ท่าน
เราเองมองไปที่พระบรมฉายาลักษณ์ก่อน จากนั้นมองไปที่พระบรมโกศสีทองอร่าม
งดงามมาก
สักพักมองที่ทหารราชองค์รักษ์ที่ยืนอยู่ด้านใน ตรงหน้าของทหารนั้นมีหีบพระบรมศพอยู่ตรงนั้นคะ
สังเกตดีๆจะเห็นสีทองสว่างมาก
ถึงตรงนี้น้ำตาไหลละคะ
พร้อมกับเจ้าหน้าที่เชิญออก
เดินออกมาจะมีตู้รับบริจาคเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วยคะ ออกมานิดนึงก็ใส่รองเท้า เก็บถุงคืนเจ้าหน้าที่
แล้วเข้าแถวเดินออกมา
ออกประตูมาจะได้รับภาพกับข้าวพอเพียงพระราชทานคะ ถึงตอนรับข้าวนี้เป็นเวลา 16.30
คะ จากนั้นหันหลังกลับไปมองพระที่นั่งอีกครั้งก่อนก้าวออกมา คิดถึงพ่อหลวงจับใจ .... ....
สรุปวันนี้เราใช้เวลา 10 ชม.ครึ่งคะ
แต่ถามว่ารู้สึกเหนื่อยมากไหม ไม่ค่อยเลยนะคะ เพราะเราตั้งใจ แค่ได้มาหาพ่อหลวงใกล้ๆ
ทุกข์ใดๆก็คลายลงหมดคะ
การเข้ามาอยู่กับคนหมู่มากๆ และรอนานๆ หลายคนอาจมีอาการออกมาไม่เหมือนกัน อาจเจอคนเห็นแก่ตัว คนใจดี คนแก่ คนป่วย อะไรเยอะแยะมากมายคะ เราเองต้องระลึกด้วยคะ เพราะร้อยพ่อพันแม่กันมา การอยู่ร่วมกัน รู้จักอภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งนี้เราจะเห็นได้จากตอนเข้าแถวนี้หล่ะคะ คนไทยมีน้ำใจมากมาย อาจมีส่วนน้อย ที่จะเห็นคนแสดงออกไม่ค่อยดี ก็ทำจิตอภัยกันไป
การเตรียมตัวในการไปกราบสักการะฯ
เสื้อผ้า
เอาแบบผู้หญิงเรานะ ก็เสื้อมีคอมีแขน กระโปรงยาวเลยเข่า รองเท้าหุ้มส้นสีดำ (แบบไม่มีส้นจะดีมาก) ทั้งสามอย่างเป็นสีดำ รูปแบบก็ใช้วิจารณญาณเอาที่ว่าสุภาพนะคะ บางคนใส่เสื้อมีคอมีแขนมาแต่ข้างหลังซีทรูงี้ก็ไม่ไหวนะ
ให้เกียรติ์สถานที่ด้วย เพราะบางทีคนเยอะๆเจ้าหน้าทีก็อาจจะไม่ได้ดูให้ทั่วทั้งหมด รองเท้านี่เอาที่ใส่สบายๆ ไม่จำเป็นต้องคัชชู
อาจเป็นผ้าใบไรงี้ได้ เพราะตอนเข้าก็ต้องถอดใส่ถุงดำ ใครไม่มีเสื้อผ้าพร้อม เค้ามีให้ยืมคะ ตรงใกล้ๆจุดคัดกรอง ใช้บัตรประชาไปลงทะเบียนยืมและแต่งตรงนั้นเลยได้ ส่วนของผู้ชายก็กางเกงสแลค (ห้ามกางเกงยีนส์) เสื้อเชิ๊ต แขนยาวหรือสั้นก็ได้ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ หรือสีสุภาพคะ
อุปกรณ์ที่ควรเตรียมไป
สำหรับแต่ละคน
อุปกรณ์จำเป็นไม่เหมือนกันก็ได้นะ
แต่ด้วยแบบเราแล้ว
คิดว่าอย่าหอบไรไปเยอะเลย มันนาน จะพะรุงพะรัง จะให้ดีหิ้วกระเป๋า 1 ใบพอ อย่าเอาของใส่เยอะจนหนัก นอกจากอุปกรณ์ประจำตัวพวกกระเป๋าสตางค์ บัตรปชช. ของใช้ส่วนตัว ในนั้นควรมีถุงก็อบแก้ปเปล่าสักอัน ร่มแบบพับได้
เพราะจะมีช่วงนึงที่ต้องเดินตากแดดไป (จริงเค้ามีให้ยืม แต่เอาไปด้วยจะดีกว่าคะ) พัดหรือพัดลมพกพา กับที่รองนั่งคะ เตรียมไปเองเลย
เพราะต้องนั่งค่อยเป็นช่วงๆคะ บางจุดไม่มีเก้าอี้ให้คะ
ส่วนน้ำ/อาหาร ยาดมยาลมยาหม่องไม่ต้องก็ได้ ที่นั่นมีเต้นท์พยาบาล มีจิตอาสาคอยแจกคอยเดินสอบถามตลอดคะ
ร่างกาย และจิตใจ
พักผ่อนให้เต็มที่สักคืนก่อนไปจะดีมากคะ
เพราะอากาศร้อน บางวันลำบากหน่อยอาจเจอฝน เตรียมร่างกายให้ดีก่อนดีกว่าคะ ส่วนจิตใจ ตั้งจิตให้มั่น รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณฯ
พฤติกรรม
กริยาควรสำรวม บางคนรอนานๆก็เบื่อ อันนี้เข้าใจ หลายคนมาเป็นกลุ่มคณะ คุยกันเสียงดังเฮฮา
คือคุยได้นะ แต่ก็เบาหน่อยก็ดี อยู่ในกริยาที่เหมาะแก่การตั้งใจมาสักการระพระบรมศพฯ บ้าง ยิ่งโดยเฉพาะตอนเข้ามาในเขตพระบรมหาราชวังแล้วยิ่งควรตระหนัก
เวลาเมื่อยไม่ต้องถึงขนาดพับเพียบคะ
นั่งแบบที่สบายๆเลย
เจ้าหน้าที่ทุกคนบริการดีและแนะนำดีมาก
เวลาอยู่ในแถว จะมีเจ้าหน้าที่ประจำแต่ละชุด เค้าจะอยู่กับเราไปจนเราได้เข้ากราบฯ คะ เวลาจะเข้าห้องน้ำทำธุระสามารถเดินออกไปได้
และก็เดินกลับมาที่แถวเดิมเราเลย ไม่ต้องกลัวว่าออกไปห้องน้ำแล้วกลับมาต้องไปต่อคิวใหม่ ถ้ามีเพื่อนไปด้วยก็ให้คนนึงอยู่ในแถว
แล้วไปทำธุระทีละคนได้คะ มีอย่างหนึ่งคะ คือขยะ!! คือจะมีจิตอาสาคอยแจกน้ำ แจกอาหาร และจะมีคนคอยเก็บขยะให้ตลอดคะ แต่!!! อาจมีบางเวลาที่เค้ายังไม่ได้เดินมาเก็บที่เรา
อาจมีบางช่วงที่จะมีขยะอยู่ในมือ
ถือไว้ก่อนนะคะ แม้ว่าเดินๆไปก็ถือไว้ก่อนจะดีกว่าคะ
ไม่ก็หยิบถุงก็อปแก็ปออกมาแล้วใส่ไว้ในนั้นก่อนคะ
เพราะหลายๆคนพอแถวเริ่มเดินก็ไม่ยอมถือขยะ เอาวางไว้ตามเสาเต้นท์บาง
เป็นภาพที่ดูไม่ดีเลย แค่ถือติดมือไปสักแปบเดียวเอง
เดี๋ยวเราก็จะเจอถังขยะ ไม่ก็จะมีจิตอาสาเดินมาถามเก็บ อ่อ อีกอันนึง เวลาเค้ามาแจกของกิน อย่ากินทิ้งกินขว้าง นึกถึงคำสอนของพ่อหลวงไว้บ้าง บางคนหยิบทุกสิ่งที่คนมาแจก
กินจนท้องจะแตกแต่ก็ยังหยิบมาอีก กินไม่หมด เสียดายของคะ